ทำไมการนำบอลลูนใหญ่ไปใช้ในงานจึงคุ้มค่าและต้นทุนต่ำมาก

จริงอยู่ที่ค่าเช่าบอลลูนใหญ่ที่สามารถบรรทุกผู้โดยสารไปใช้งานราคาค่อนข้างสูง เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 5-7 หมื่นบาท ซึ่งยังไม่รวมค่าขอใบอนุญาตใช้สนามบินชั่วคราวกับค่าขนย้ายบอลลูนค่าเดินทางและที่พักของเจ้าหน้าที่ควบคุมบอลลูน แต่เจ้าของงานสามารถเก็บค่าบริการจากผู้ที่สนใจที่จะได้รับประสบการณ์ในการขึ้นบอลลูนในราคาถูกเป็นพิเศษได้ ปกติค่าบริการขึ้นบอลลูนท่องเที่ยวมีค่าใช้จ่ายหลักหมื่นต่อคน แต่ในงานบอลลูนโชว์สามารถจ่ายเพียง 1,000-1,500 บาท ก็ได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษลอยขึ้นไปกับบอลลูนได้แล้ว ถ้าเจ้าภาพบริหารเวลาของผู้ที่สนใจขึ้นบอลลูนให้ดี บอลลูนก็สามารถรับนักท่องเที่ยวได้สูงสุดถึง 50 คนต่อลูกต่อวัน เรียกว่าเกือบครอบคลุมหรือเพียงพอค่าเช่าบอลลูนในแต่ละครั้งเลยทีเดียว

เงื่อนไขและข้อจำกัดในการใช้บอลลูนใหญ่รับผู้โดยสารในงาน

• บอลลูนบรรทุกผู้โดยสาร จัดอยู่ในหมวดยานพาหนะการบินเช่นเดียวกับเครื่องบิน ดังนั้นการนำบอลลูนใหญ่ที่คนขึ้นไปกับบอลลูนได้ไปใช้งาน จึงใช้มาตรฐานเดียวกับเครื่องบิน ต้องขออนุญาตใช้พื้นที่ทำเป็นสนามบินชั่วคราว มีนักบินบอลลูนและต้องใช้บอลลูนที่มี License หรือใบอนุญาตถูกต้องครบถ้วน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ยากเพราะทีมงานของไทยบอลลูนมีความพร้อมในการดำเนินการเพื่อขอใบอนุญาตให้อยู่แล้ว ซึ่งค่าใช้จ่ายในการขอใบอนุญาตก็ไม่ได้แพงมาก เพียงแต่ต้องมีเวลาดำเนินการขอใบอนุญาตใช้พื้นที่เป็นสนามบินชั่วคราวล่วงหน้าอย่างน้อย 30-60 วัน
• บอลลูนใหญ่ ต้องการพื้นที่โล่งที่มีความปลอดภัยในการบิน อย่างน้อยควรมีพื้นที่ 1/2 ไร่ / บอลลูน 1 ลูก เพื่อความสะดวกในการบินขึ้นและลง แต่เนื่องจากเป็นแค่สนามบินชั่วคราวเท่านั้น ทางทีมงานบอลลูนจึงมีข้อจำกัดในการให้ขึ้นบอลลูนได้เพียงการผูกล่ามโดยจำกัดความสูงของบอลลูน ปกติทางทีมงานจะมีหมุดยึดบอลลูนไปให้ด้วยอยู่แล้ว แต่ถ้าพื้นที่ไม่สะดวกที่จะให้ปักหมุดยึดบอลลูน ก็อาจเตรียมรถหรือถุงทรายไว้ผูกล่ามบอลลูนก็ได้ ยิ่งถ้าใช้รถสวยๆ ก็จะเป็นการโปรโมทภาพลักษณ์ของรถให้เจ้าของแบรนด์ได้เป็นอย่างดีมากด้วย
• อุปสรรคสำคัญของบอลลูนคือสภาพอากาศ หากมีลมแรงหรือฝนตกจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้บอลลูนไม่ปลอดภัยในการบิน ดังนั้นการนำบอลลูนไปใช้งานควรเลือกช่วงเวลาที่ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่ช่วงฤดูกาลที่มีฝนตกและลมแรง โดยกัปตันนักบินจะช่วยพิจารณาสภาพพื้นที่หน้างานในการนำบอลลูนไปบินให้ด้วย

ขั้นตอนในการเซ็ตอัพบอลลูน (Set up balloon)

1. เมื่อถึงวันงานที่จะบินบอลลูน ทีมงานของไทยบอลลูนจะไปสำรวจพื้นที่ก่อนล่วงหน้า ปกติจะไปก่อนล่วงหน้า 1 วัน เพื่อช่วยดูแลและจัดการพื้นที่ในการบินบอลลูน ซึ่งหากพื้นที่เป็นที่เรียบและโล่งไม่มีสิ่งกีดขวางการบินก็จะปลอดภัยในการบินบอลลูนอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นสนามหญ้ากว้างๆ ก็จะทำให้การบินขึ้นและลงของบอลลูนสะดวกมากยิ่งขึ้น
2. เมื่อถึงเวลางานที่จะต้องบินบอลลูน กัปตันและทมงานของไทยบอลลูนจะวางและจัดเตรียมอุปกรณ์ในการบินบอลลูน ปกติใบอนุญาตจะให้ทำการบินบอลลูนในช่วงเวลากลางวันระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ช่วงเวลาที่ลมค่อนข้างสงบและนิ่งที่สุดจะเป็นช่วงเช้าตรู่และใกล้มืด ดังนั้นเวลาที่เหมาะสมในการบินบอลลูนใหญ่สำหรับใช้ในการจัดงานอีเว้นท์ ก็มักจะให้บินในช่วงเวลา 16.30-19.00 น. โดยประมาณ
3. เมื่อทีมงานเซ็ตบอลลูนเป็นที่เรียบร้อย ก็จะเริ่มทำการเป่าลมให้ผ้าบอลลูนพองโตแล้วจึงค่อยใช้ไฟเผาอากาศภายในถุงผ้าบอลลูนให้ร้อนขึ้น เมื่ออากาศในถุงบอลลูนร้อนกว่าอากาศภายนอก บอลลูนก็จะลอยขึ้นอย่างง่ายดาย
4. การบินไฟลท์แรก ทางนักบินและทีมงานจะบินทดสอบความปลอดภัยและเช็คความเรียบร้อยก่อน หลังจากนั้นจึงจะเริ่มให้ผู้ที่สนใจสามารถขึ้นบอลลูนได้ โดยให้ขึ้นบอลลูนรอบละ 4-5 คน รอบละประมาณ 5-7 นาทีไม่รวมช่วงเวลาที่เปลี่ยนชุดผู้โดยสารขึ้นลงตระกร้าบอลลูน ในระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงสามารถขึ้นบอลลูนได้ประมาณ 50-60 คน 

หมายเหตุสำคัญ เนื่องจากบอลลูนเป็นยานพาหนะการบินที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานการบิน หากสภาพอากาศไม่อำนวย นักบินอาจจะไม่สามารถนำบอลลูนขึ้นบินได้หรืออาจต้องปรับเปลี่ยนและเลื่อนเวลาในการบินให้เหมาะสมและมีความปลอดภัยที่สุด